1. หัวหอม หรือหอมแดง
สรรพคุณ เป็นพืชที่มีกลิ่นฉุน และรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมและทำให้ร่างกายอบอุ่น (เป็นน้ำมันหอมระเหยชนิดหนึ่ง)
บรรเทาอาการ หวัด คัดจมูก หรือหายใจไม่สะดวกเนื่องจากหวัด
วิธีการใช้ ทุบหอมแดงประมาณ 2-3 หัว ห่อด้วยผ้าแล้วนำไปวางใกล้หมอนเวลานอนหรือนำมาต้มกับน้ำ แล้วรมไอให้ลูกน้อยได้สูดดม แต่มีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้เข้าตา หรือถูกผิวหนังลูกค่ะ
2. ดอกกานพลู
สรรพคุณ มีกลิ่นหอมฉุนและรสเผ็ดร้อน เป็นยาขับลม
บรรเทาอาการ ท้องอืด, ท้องเฟ้อ
วิธีการใช้ ใช้ดอกกานพลูประมาณ 2-3 ดอก ใส่ในน้ำร้อนนำมาชงนมให้ลูก
3. ขมิ้นชัน
สรรพคุณ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการอักเสบตามผิวหนัง
บรรเทาอาการ ผดผื่นคันตามร่างกาย
วิธีการใช้ นำขมิ้นชันสดมาฝนให้ได้เนื้อขมิ้นเล็กน้อย ผสมกับดินสอพองทาบริเวณที่เป็นหรืออาจจะใช้ผงขมิ้นผสมน้ำต้มสุกทาบ่อยๆ บริเวณที่เป็น
4. ใบพลูหรือใบตำลึง
สรรพคุณ มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
บรรเทาอาการ ผื่นคันเนื่องจากเกิดลมพิษ
วิธีการใช้ นำใบพลูหรือใบตำลึงประมาณกำมือหนึ่ง ล้างให้สะอาด จากนั้นบดหยาบผสมดินสอพองหรือข้าวสารเล็กน้อยก็ได้ แล้วนำมาทาแก้ผื่น
5. ดินสอพอง
คุณสมบัติ เป็นตัวยาที่มีความเย็น ใช้แก้พิษร้อนกับร่างกาย สมัยโบราณนิยมใช้ทำแป้งประร่างกาย เพื่อให้เย็นสบาย
บรรเทาอาการ ผื่นคันตามผิวหนัง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น
วิธีการใช้ ใช้ดินสอพองที่สะตุแล้ว ผสมน้ำนิดหน่อยทาบริเวณที่เกิดอาการ
* การสะตุดินสอพอง คือ การทำดินสอพองให้สะอาดและเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วย ทำได้โดย นำดินสอพองที่เป็นก้อนมาบดเป็นผงให้ละเอียด ใส่ในหม้อดินแล้วตั้งไฟให้ร้อน ยกลง รอให้ดินสอพองเย็น แล้วมักจะใส่ผงขมิ้นชัน เรียกว่า ดินสอพองสะตุ
6. ว่านหางจระเข้
สรรพคุณ น้ำเมือกของว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติเป็นยาเย็น สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
บรรเทาอาการ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก จะช่วยลดอาการแสบร้อน สมานแผลให้ดีขึ้น
วิธีการใช้ ปอกเปลือกเอาเฉพาะวุ้น ขูดให้เป็นน้ำเมือก ทาบริเวณที่เป็นแผล ควรระวัง เปลือกว่านหางจระเข้จะมียางสีเหลืองซึ่งจะระคายเคืองผิวหนัง
7. พญายอ สรรพคุณ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ระงับการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
บรรเทาอาการ แผลในปาก เริม และแมลงกัดต่อย
วิธีการใช้ นำส่วนใบมาขยี้ให้น้ำยาออกมา แล้วค่อยนำไปทาบริเวณที่เป็นบ่อยๆ
8. เปลือกต้นแค
สรรพคุณ เป็นสมุนไพรรสฝาด ที่ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย
บรรเทาอาการ ท้องร่วง และช่วยสมานแผล
วิธีการใช้ ใช้เปลือกต้นแคฝนให้ยุ่ย นำไปป้ายบริเวณที่เป็นแผล หรือนำเปลือกต้นแคมาต้มให้ได้น้ำยาเข้มข้นแล้วใช้ป้ายหรือทาบริเวณที่เป็นแผล
9. ประคำดีควาย สรรพคุณ มีสารสำคัญ (Saponin) ที่ทำให้เกิดฟอง
บรรเทาอาการ ชันตุ พุพองตามหนังศีรษะหรือผิวหนัง
วิธีการใช้ ใช้ผลแก่ 4-5 ผล ทุบพอแตกมาต้มเอาแต่น้ำประมาณ 1 ถ้วย ทาผิวหนังบริเวณที่เป็น เช้า–เย็น หรือนำมาแกะเอาแต่เนื้อ ตีกับน้ำจนเป็นฟองใช้สระผมเด็กจนกว่าจะหายค่ะ และไม่ควรให้เข้าตาจะทำให้แสบตา
10. กะเพรา
สรรพคุณ เป็นพืชรสเผ็ดร้อน ช่วยยับยั้งเชื้อราที่ผิวหนัง
บรรเทาอาการ เกลื้อนน้ำนม
วิธีการใช้ นำใบกะเพรา (มักใช้กะเพราแดง) มาขยี้ และทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน วันละ 3-4 ครั้ง จนกว่าจะหาย
ก่อนใช้สมุนไพร * ก่อนเลือกใช้สมุนไพร คุณแม่ต้องรู้อาการของลูกก่อนว่า เป็นอาการร้ายแรงหรือเกิดจากโรคประจำตัว ที่ต้องระมัดระวังหรือไม่ เพื่อดูแลอาการได้เหมาะสม ไม่เกิดผลข้างเคียง
* บางอาการเจ็บป่วย ที่ต้องใช้สมุนไพรดูแล เช่น มีเสมหะ จำเป็นต้องกวาดยา ก็ควรเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดด้วยค่ะ เช่น ล้างมือก่อนกวาด หรือทายาในช่องปาก เป็นต้น
สิ่งสำคัญสำหรับการใช้สมุนไพรวิธีธรรมชาตินั้น ก่อนใช้คุณแม่ควรศึกษาข้อมูล หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยต่อลูกน้อยค่ะ
ขอบคุณ: คุณมาลา สร้อยสำโรง แพทย์แผนไทยประยุกต์,
ดร.อัญชลี จูฑะพุทธิ เภสัชกร สถาบันแพทย์แผนไทย
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ที่มาจาก : motherandcare.in.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น